----------------------------------------------------------------------------------------------- UFO-THAILAND: พฤศจิกายน 2009 -----------------------------------------------------------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คำเตือนของมนุษย์ต่างดาวถึงวันสิ้นโลก

คำเตือนของมนุษย์ต่างดาวถึงวันสิ้นโลก



เดือนธันวาคม ค.ศ. 2000
ชาวคอร์กิโนหลายคน เห็นดวงแสงลึกลับ ลอยวูบลงสู่พื้นดินแล้วพุ่งกลับขึ้นไปในอากาศ ทิ้งรอยไหม้จนหินละลายซึ่งต่อมาหินละลายดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากนักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกาที่ลงความเห็นว่าหินได้รับความร้อนอย่างไม่น่าเชื่อนอกจากแสงลึกลับแล้ว ที่นี่ยังมีชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่าเขาสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้มานานแล้วล่าสุดเมื่อปี 2002เขาก็อ้างว่าเขาถูกลักพาตัวไปยังยางนอกโลกถึง 3 วันซึ่งงานนี้เขาไม่ได้อ้างลอยๆ นะ เขามีพยานหลักฐานอันน่าทึ่งและยังไม่อาจพิสูจน์ค้านได้ว่าเป็นการทำปลอม หรือกุเรื่องขึ้นเสียด้วยชายผู้มีประสบการณ์พิเศษคนนี้ ชื่อ อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่าเขาอ้างว่าเขาเคยติดต่อ กับมนุษย์ต่างดาวมาหลายครั้งมนุษย์ต่างดาวของโอลิเวียร่า ไม่ใช่ทอล ดาร์ค แอนด์ แฮนซัมแต่เป็นทอล บลอนด์ ผิวขาวร่างสูง ผมบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าจางโดยมีแก้วตาสีเหลืองอ่อน ขวางตามตัวตามแนวตั้งเหมือนตาแมวฟังดูไม่น่าเกลียดเหมือนตัวอีทีโอลิเวียล่าบอกเราว่ามนุษย์ต่างดาวใช้สิ่งที่เรียกว่าแสงพลาสม่าเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารกับเขาทางโทรจิตเหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 กันยายน 2002คืนนั้น โอลิเวียร่า หายตัวไปจากห้องนอนทิ้งไว้แต่รอยไหม้รูปร่างคนนอนบนผู้ปูเตียงและบนฝ้าเพดานไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน อีก 3 วันต่อมมจู่ๆเขาก็กลับมาอยู่ในห้องนอนนั้นและเขาอ้างตลอดว่า เวลาที่เขาหายไปนั้นเขาถูกนำตัวไปยังยานต่างดาวโอลิเวียร่า บอกว่าเขารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้โดยเขาได้รับการติดต่อ ทางโทรจิตผ่านแสงพลาสม่าว่ามนุษย์ต่างดาวจะมานำตัวเขาไปในคืนดังกล่าวโดยก่อนเกิดเหตุการณ์จะมีสัญญาณนำมาให้รู้โดยจะเกิดฝนก้อนหินตกลงมาค่ำวันที่ 15 กันยายน 2002 เวลาประมาณ 19.13 น.เพื่อนบ้านใกล้เคียงของโอลิเวียร่า ต้องประหลาดใจที่ได้ยินเสียงอะไรร่วงกรูกราวอยู่บนหลังคา เมื่อออกมาดูพบว่าเป็นก้อนหินกลมๆ ก้อนเล็ก ๆตกลงมาจากท้องฟ้า หลายคนช่วยเก็บก้อนหินบางคนก็ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วยเขาเล่าว่าในขณะที่เขานอนอ่านหนังสืออยู่ยนเตียงสักครู่ก็มีแสงสีม่วงสว่างไปทั้งห้องแสงนั้นรวมตัวเข้าเหมือนฟองสบู่ ร่างของเขาลอยทะลุเพดานรู้สึกเหมือนกระดูถูกยืดออก แต่ไม่มีความเจ็บปวดครั้นลอยพ้นผ่านหลังคาบ้านไปลำแสงสีม่วงก็พลิกร่างเขาให้ยืนขึ้น เมื่อไปถึงยานต่างดาว(ซึ่งเขาไมได้บอกว่ามันเป็นอย่างไร )เขาก็ถูกนำตัวเข้าไปในฟองอากาศ ใบใหญ่ซึ่งมีผิวบางใส คล้ายๆ ว่าข้างในคงจะคล้ายๆ ห้องฆ่าเชื้อปรับพลังงานให้สมดุลย์อะไรทำนองนั้นจากนั้นมนุษย์ต่างดาวผมบลอนด์ร่างสูงก็พาเขาขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของยานซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุดที่นั่นมนุษย์ต่างดาวให้เขาดูจอภาพ อันเป็นภาพเกี่ยวกับโลกระบบสุริยะ และกาแล็คซี่ของเรามนุษย์ต่างดาวบอกว่า ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012( พ.ศ. 2555) จะเกิดปรากฎการณ์ในอวกาศครั้งใหญ่ซึ่งจะมีผลกระทบไปทั้งจักรวาลในวันนั้นแกแล็คซี่จะส่งแสงวาบเจิดจ้าออกมากดวงอาทิตย์ทุกดวงในแกแล็คซี่จะสะท้องแสงนั้นไปยังดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัวมันสิ่งมีชีวิตทั้งมวลอันมีดวงตาจะได้เห็นแสงเจิดจ้านี้ทั่วหน้ากันโลกของเราจะปั่นป่วน ด้วยพายุสุริยะทั้งแสงอาทิตย์ก็จะร้อนจัดขึ้นคำทำนายของมนุษย์ต่างดาวที่ว่าจะเกิดอาเพศขึ้นทั่วทั้งจักรวาลในวันนั้นจะเป็นจริงหรือไม่น่าแปลกที่ว่าวันที่ 22 ธันวาคม 2012 นั้นเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วยอีกไม่กี่ปีเราคงจะได้เห็นปรากฎการณ์นั้น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างทั้งหมดนี้ ที่ฟังมานี้ ต่างต้องล้วนใช้วิจารณญาณ

มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือ

มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือ

ในความเป็นจริง เราเคยถามตัวเองกันบ้างหรือไม่ว่า เราเป็นมนุษย์เพียงชนิดเดียวในจักรวาลนี้หรือ? อันที่จริงเรามีความรู้เพียงน้อยนิด เกี่ยวกับจักรวาลของเราเอง เราทุกคนบนโลกใบนี้ยังคงดำเนินชีวิตอยูพื้นฐานของความเป็นไปได้ ตรรกกะ และเหตุผล ความรู้ของเราได้ถูกพัฒนาสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นโดยเิริ่มต้นจากการจินตนาการ การตั้งสมมติฐาน การทดลอง การบันทึก และการจดจำ จนเกิดเป็นศาสตร์แขนงต่างๆขึ้นบนโลกใบนี้ เราสามารถสร้างสิ่ิ่งประดิษฐ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราสามารถเรียนรู้และรับมือกับธรรมชาติ เราสามรถสร้างรูปแบบการดำเนินชีวิตให้แตกต่างจากสังคมสัตว์ทุกชิดได้อย่างสิ้นเชิง แต่ความรู้พื้นฐานเหล่านี้ มันถึงที่สุดแล้วหรือ? ผมว่าไม่นะ


ลองคิดง่ายว่า ถ้าเรานำก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นแล้วจินตนาการว่า นั้นคือดวงอาทิตย์ ห่างกัน 3 นิ้วมีก้อนหินเล็กๆ ซึ่งเป็นตัวแทนดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลก ดวงอาทิตดวงต่อไปที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปอีกหลายกิโลเมตร เราไม่เคยเดินออกจากบ้านเกิน 1 นิ้วเลย เราสัมผัสเพียงแค่นั้นถ้ากฏของการวิวัฒนาการเป็นเรื่องจริง โฮโมเซเปี้ยนที่เป็นต้นกำเนิดของเราก็จะมีอายุุประมาณ 10,000 ปี เราเติบโตมาได้ 10,000 ปีทุกวันนี้เรามีในสิ่งที่แตกต่างจากจุดเริ่มต้นโดยสิ้นเชิง แต่ระยะเวลาหมื่นปี เป็นเพียงเวลาสั้นเมื่อเทียบกับการกำเนิดของมวลสารต่างๆในจักรวาล เราไม่สามารถจินตนาการได้ ถึงความเปลียนแปลงในอีกหมื่นปีข้างหน้า เหมือนกับที่เมื่อหมื่นปีที่แล้วคงไม่มีใครคิดว่ามนุษย์บินได้ ถ้าเราไม่ใช่มนุษย์ชนิดเดียวในจักรวาลนั่นก็หมายความว่า ยังมีมนุษย์ที่ล้าหลังเราเป็นหมื่นปี หรือล้ำหน้าเราเป็นแสนปีล้านปีก็ได้ในเรื่องนี้อย่างน้อยก็มีคำยืนยันจากพระศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยปัญญาญาณอันบริสุทธ์ ในพระไตรปิฎกว่า ยังมีมนุษย์อีกกมากมายที่ไม่ได้อาศัยอยู่บนโลกนี้ถ้าเป็นเช่นนั้น เรื่องของมนุษย์ต่างดาวก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะพวกเค้าาอาจมาเยือนเราด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่ล้ำ้หน้าจนไม่มีผลเกี่ยวกับปัยจัยทางระยะทาง และคงมีเหตุผลบางประการที่ไม่สามรถเปิดเผยตัวตนต่อมนุษย์ชาติ


มีปรากฏการณ์ประหลาดมากมายทั่วโลกที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางตรรกกะและเหตุผลของเราและปรากฎการณ์เหล่านี้ ก็มีไม่น้อยที่เชื่อมโยงไปถึง "มนุษย์ต่างดาว" ในมุมมองของคนทั่วไปอาจมองเป็นเรื่องไร้สาระ งมงาย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะพื้นฐานของเค้าคือ ตรรกกะ และเหตุผล แต่ก็มีรายงานอีกไม่น้อยที่ปรากฎเป็นหลักฐาน พยาน จนที่น่าพิศวง งงงวย มีการบันทึกภาพวัตถุปรหลาดบนท้องฟ้าี่ที่เป็นทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว แน่นอนว่ามีบางส่วนเป็นการจัดฉากแหกตาขึ้นมา แต่ก็มีอีกมากที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นของจริง ซึ่งยังไม่สามรถอธิบายได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่ปรากฎในภาพนั้น
สิ่งประหลาดในอินเดีย

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ยูเอฟโอ ใน ไทย



ภาพ UFO ที่ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติที่บันทึกไว้ได้ที่เขากะลา ส่วนมากจะเป็นการบันทึกด้วยกล้องวีดีโอ ซึ่งไม่สามารถตัดแต่งภาพได้มีจำนวนมาก ข้อมูลการฝึกฯ กับมนุษย์ต่างดาว เขาสอนอะไร? ฝึกอะไร? และผู้รับการฝึกได้อะไร? ทำไมต้องประสานงานกับกลุ่มต่าง ๆ และประสบการณ์เกี่ยวกับการรับข้อมูลของมนุษย์ต่างดาวโดยใช้เครื่องมือสื่อสารของมนุษย์ต่างดาวแทนการใช้การสื่อสารด้วยจิตนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หลายท่านเคยประสบด้วยตนเองมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไรเท่านั้นเอง-สิ่งที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จะแจ้งข้อมูลต่อจากนี้ จะเป็นการ.....แจ้งเพื่อทราบ....เท่านั้น เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นเรื่องใหม่ เป็นวิทยาศาสตร์ ที่สามารถพิสูจน์ ทดสอบ ทดลองได้ ไม่ใช่ปาฏิหารย์ ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ใด ๆ แต่เป็นกลไกทางวิทยาศาสตร์ ที่มนุษย์ต่างดาว นำมาให้เห็น และจำเป็นต้องใช้ในช่วงวิกฤตของโลกใบนี้ ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไปอยู่นั่นเอง-ข้อความสำคัญ....แจ้งเพื่อทราบ.....เท่านั้น (มนุษย์ต่างดาวให้แจ้งไปก่อน เชื่อไม่เชื่อให้แจ้งไป...นี่คือหลักการการแจ้งข้อมูลของมนุษย์ต่างดาวผ่านไปยังสื่อต่าง ๆ)- การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว เริ่มจาก จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ... แจ้งเพื่อทราบ....ไปแล้วตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ซึ่งในระยะแรกไม่สามารถเชื่อถือได้เป็นธรรมดา เป็นกลุ่มคนบ้ากลุ่มหนึ่งที่มาทำเรื่องไร้สาระ เมื่อเวลาผ่านไปจึงจะมีหลักฐานต่าง ๆ ทั้งพยานบุคคล และภาพถ่ายต่าง ๆ มายืนยัน จึงพอที่จะเชื่อถือได้- การฝึกฯสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ...... แจ้งเพื่อทราบ....ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2542 รวมระยะเวลาการฝึกฯ 1 ปี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่บุคคลต่างๆ ก็เห็นว่ากลุ่มนี้ทำอะไรไม่เข้าเรื่อง ซึ่งจากวันที่ 1 เมษายน 2547 เป็นต้นมา ก็เข้าสู่ระบบการทำงานกับมนุษย์ต่างดาวเต็มรูปแบบ ซึ่งได้มีการ...แจ้งเพื่อทราบ...ไปแล้ว ผ่านทางสื่อทีวี..รายการ V.I.P. ช่อง 9 (ไปบันทึกรายการวันที่ 16 ธันวาคม 2547ก่อนเกิดสึนามิ 10 วัน), รายการสารคดี UFO ในประเทศไทย , รายการย้อนรอย ITV, รายการชั่วโมงพิศวง ช่อง 7, แจ้งเพื่อทราบ...ผ่านทางหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 8, 10, 12, พฤศจิกายน 2548 และ แจ้งเพื่อทราบ...ผ่านทางบูธนิทรรศการ UFO ในประเทศไทย ซึ่งจัดร่วมกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาติครั้งที่ 11 วันที่ 8-11ธันวาคม 2549 .....เรามีหน้าที่แค่แจ้งเพื่อทราบ การมาปรากฏให้บุคคลต่าง ๆ ได้เห็นเป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาว ไม่ใช่หน้าที่ของเรา แต่จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเราจึงทราบว่า เมื่อรายการทีวีทุกรายการก่อนการนำเสนออะไรสักอย่างหนึ่ง จะมีการส่งทีมงานเดินทางไปบนเขากะลาก่อนเพื่อสังเกตุการณ์ว่ามีมูลความจริงหรือไม่ และต้องได้เห็นวัตถุบิน หรือลูกไฟวิ่งได้ หรือสิ่งอื่น ๆ ที่มาปรากฏแล้วเชื่อได้ว่าไม่ได้มีการหลอกลวงประชาชน หัวหน้าทีมงานจะต้องได้เห็นเองจนแน่ใจ จึงจะข้อมูลเสนอต่อทางรายการขออนุมัติถ่ายทำ แล้วจึงจะนำทีมงานมาถ่ายทำได้ และนำออกอากาศต่อไป จึงเป็นหน้าที่ของมนุษย์ต่างดาวต้องนำวัตถุบินมาปรากฏให้ทีมงานเห็นเอง ... ซึ่งเป็นการยืนยันได้ว่า สิ่งที่แจ้งเพื่อทราบ....ก่อนหน้านี้เริ่มมีการปรากฏชัดเจนมากขึ้น และเริ่มออกสู่สาธารณชนเพื่อให้รับทราบทางช่องทางอื่น ๆ ได้มากขึ้น- และครั้งนี้ การถ่ายทอดข้อมูลเรื่องของ “เครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว” เป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อได้ และเป็นรูปแบบเทคโนโลยีที่มนุษย์ยังค้นคว้าไปไม่ถึง แต่ก็จะเป็นการ..แจ้งเพื่อทราบ...เช่นกัน เป็นเรื่องบอกไว้ก่อนเพื่อทราบเช่นเดิม แต่ขณะนี้ได้มีพยานบุคคลต่าง ๆ ได้มีโอกาสเห็นเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาวมากขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นเข้า-ออกมิติโดยไม่รู้ตัว การเห็นสถานที่ต่างมิติ เห็นการย้ายสิ่งของจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือ แม้แต่การcopy รูปร่างเดียวกันไปอยู่อีกสถานที่หนึ่งในเวลาเดียวกัน และพูดคุยสนทนาเหมือนกับเป็นบุคคลเดียวกัน มีผู้ถูก copy เช่นนี้แล้วหลายบุคคล ซึ่งได้มาเล่าให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ได้ฟัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ใด ๆ เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นเทคโนโลยีของต่างดาว เขาบอกว่าก็เหมือนเครื่องถ่ายเอกสารของเราเมื่อ copy จากเครื่องถ่ายเอกสารอย่างดี ต้นฉบับกับสำเนาแทบไม่ต่างกันเลยจะ copy อีกสักกี่แผ่นก็เหมือนต้นฉบับ (เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีของเราเพื่อเทียบเคียง)แต่เขามีความเจริญกว่าเรามากนัก การ copy จึงยกไปได้ทั้งมวลสาร ซึ่งต่อไปข้างหน้าจะต้องใช้เทคโนโลยีแบบนี้ เพื่อที่บุคคลที่ทำงานเรื่องของภัยพิบัติ จะไปปรากฏตัวในหลาย ๆ ที่ในเวลาเดียวกันเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น (อย่าลืมว่าในการเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ การสื่อสารจะไม่สามารถติดต่อกันได้ คุณจะไปอยู่กี่สถานที่จะไม่มีใครทราบได้เลย แต่ทุกอย่างทำเพื่อประโยชน์ผู้อื่นทั้งสิ้น)

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

10 เหตุการ ที่ น่าเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง

10 เหตุการ ที่ น่าเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง

เหตุการณ์ที่1 เครื่องบินสีทอง








จากจำนวนวัตถุลึกลับเกี่ยวกับจานบิน ชิ้นนี้ดังที่สุด ซึ่งถูกพบในโคลัมเบีย อเมริกาใต้ มีอายุมากกว่า 1000 ปี มีลักษณะเหมือนเครื่องบินเจ็ทปีกเป็นรูปสามเหลี่ยมของยุคปัจจุบัน มีที่นั่งนักบินอยู่ตรงส่วนหัวและมีหางเหมือนเครื่องบินปัจจุบันด้วย ซึงแน่นอนชาวพื้นเมืองในโคลัมเบียคงไม่สามารถสร้างเครื่องบินนี้แน่ โดยเฉพาะเมื่อ 1000 ปีก่อน

อาจเป็นไปได้ว่ามนุษย์ต่างดาวได้เดินทางมาถึงอเมริกาใต้ ในยานอวกาศใต้ ในยานอวกาศที่มีรูปร่างเหมือนเครื่องบินเจ็ทตั้งแต่เมื่อ 1000 ปีมาแล้ว และคงสร้างยานลำนี้ไว้เป็นที่ระลึก

เหตุการณ์ที่2 เด็กเขียว








ในเดือนสิงหาคม 1887 ในสเปน มีเด็กสองคน ซึ่งมีผัวหนังสีเขียวเป็นมันวาว และมีดวงตารีเฉียง เดินออกมาจากถ้ำแห่งหนึ่ง เด็กสองคนนั้นสวมเสื้อผ้าที่ทำจากวัตถุประหลาด และพูดภาษาประหลาดที่ผู้วชาญภาษาจากบาร์เซโลนาไม่เข้าใจ และไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นภาษาอะไร เด็กชายที่เป็นผู้ชายตายก่อน ส่วนเด็กผู้หญิงยังอยู่ต่อมาและหัดพูดภาษาสเปนได้จนคล่องเธอเล่าว่าเธอถูกนำมาจากดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งมีแต่ยามสนธยามีพระอาทิตย์ขึ้น และถูกหอบมาทิ้งไว้ที่ถ้ำนั่นดินแดนที่ว่านั้น เป็นดินแดนของดาวอีกดวงหนึ่งใช่หรือไม่ หรือว่าพวกเธอถูกส่งตัวมายังโลกด้วย ยาวอวกาศหรือเปล่า หรืออาจมาจากมิติที่สี่ก็เป็นได้

เหตุการณ์ที่ 3 การระเบิดที่ไซบีเรีย








เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1908 มีการระเบิดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นที่ไซบีเรีย เป็นแรงระเบิดที่รุนแรงกว่าฮิโรชิม่าถึง 10 เท่าดังไปค่อนโลก มีบางคนบอกว่า ตนเองได้เห็นแสงไฟและเห็นควันรูปเห็ด อย่างไรก็ตามผลสุดท้ายสาเหตุการระเบิด ไม่มีใครทราบแน่ชัดในปี 1927 นักวิทยาศาสตร์ชาวโซเวียต ได้ออกทำการสำรวจและพบบริเวณที่เกิดการระเบิดนั้น ซึ่งกินบริเวณกว้างขวางถึง 800 ตารางไมค์ จากการลงความเห็นของผู้วชาญ แรงระเบิดนั้น ไม่ใช้เพราะอุกาบาตรแน่ มีบางคนบอกว่ามันอาจเป็นดาวหาง อาจเป็นเสี่ยวหนึ่งของหลุมดำ หรืออาจเป็นแสงเลเซอร์จากดวงดาวอื่นก็ได้อเล็กซานเดอร์ คาซานท์เซฟ วิศวกรด้านอาวุธของรัสเซียลงความเห็นว่า มันเป็นพวกยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งขณะบินทำการสำรวจโลก ตกลงมา และเกิดระเบิดขึ้น

เหตุการณ์ที่ 4 เมื่อมนุษย์ต่างดาวเป็นฆาตกร












วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2491 รัฐเคนตักกี้ อเมริกา เรืออากาศเอก โธมัส แมนเทลล์ จูเนียร์ ได้ขับเครื่องบินซี 118 แถวน่านฟ้าของเมืองแมรีส์วิลล์ เพื่อไปตรวจสอบการพบเห็น UFO ส่องแสงขนาดใหญ่ และเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ และเงียบเชียบข้ามท้องฟ้า ซึ่งทางฐานทัพก็จับสัญญามันได้เช่นกันแมนเทลล์ขับแล้วไปเจอ UFO ลำนั้นทันที เขารายงานวัตถุนั้นต่อศูนย์เป็นระยะในการติดตาม “พระเจ้า! มันน่ามหัศจรรย์ มันอยู่เหนือผมพอดี และมันใหญ่โตมโหฬารมาก มันดูเหมือนโลกหะรูปกลมใหญ่มาก ผมกำลังพยายามไปให้ถึงมัน มันกำลังบินสูง มันเริ่มบินสูง.... พระเจ้า! มันน่ามหัศจรรย์มาก! มันเริ่มร้อน มันร้อน ร้อนมากทีเดียว ผมทำไม่...”จากนั้นสัญญาณก็ถูกตัดเวลาต่อมา มีการพบซากเครื่องบนและศพของเรืออากาศเอกแมนเทลล์ มีรายงานว่าซากเครื่องบินมีรูและรอยขีดข่วงจากความร้อนสูง เหมือนกับว่าเครื่องบินถูกทำลายจากรังสีบางอย่างปัจจุบันการตายของแมนเทลล์ยังเป็นปริศนาต่อไป ว่าสิ่งที่เขาพบนั้นคือ UFO จริงหรือไม่?

เหตุการณ์ที่ 5 แอเรีย 51 (Area 51)

พื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในกลางทะเลทรายทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เนวาด้า และอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ปี 1958 เป็นพื้นที่ที่ลึกลับที่สุดเพราะเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้คนนอกเข้าและมีการรักษาความปลอดภัยสูงสุด แม้ทางการสหรัฐจะบอกว่าพื้นที่นี้เป็นเพียงสถานที่ทดสอบอาวุธหรือเครื่องบินรบใหม่ของสหรัฐ แต่มีหลายคนบอกว่าอาจเป็นฐานทัพของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ก็สถานที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว นั่นก็อาจจะเป็นเพราะมีคนจำนวนมาก อ้างว่าได้เห็นวัตถุบินลึกลับหรือ UFO (Unidentified Flying Object) บินอยู่เหนือบริเวณนั้นบ่อยครั้ง จนหลายคนสงสัยว่าบริเวณพื้นที่ 51 นั้นต้องมีอะไรมากกว่าสถานที่ซ้อมรบเครื่องบินรบ แน่นอน

เหตุการณ์ที่ 6 จานบินตกที่รอสเวลล์

ในปี ค.ศ.1948 เมืองรอสเวลล์ เกิดเหตุการณ์วัตถุบินลึกลับตกในพื้นที่ทะเลทรายของชาวเมืองนาม แม็ค บราเซิล วัตถุชิ้นตกตกและชิ้นส่วนตกกระจัดกระจายเป็นวงกว้าง ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการก็มาถึงและเก็บวัตถุในพื้นที่ที่เกิดเหตุจนหมด ซึ่งผลจากการตรวจสอบตอนแรกบอกว่าวัตถุที่ตกลงมานั้นเป็นวัตถุที่ไม่เคยมีอยู่ในโลก และแต่ละชิ้นโลหะมีคุณสมบัติแปลกประหลาด แต่ถึงอย่างไรเพราะอะไรไม่ทราบสาเหตุภายหลังทางการดันกลับคำให้การบอกว่าวัตถุที่ตกลงมาเมืองรอสเวลล์นั้นคือหรือบอลลูนตรวจสภาพอากาศ?ทำไมต้องกลับคำผลการตรวจสอบ?? แล้ววัตถุบินลึกลับนั้นเป็นจานบินหรือไม่? ไม่มีใครทราบได้ แม้ว่าเหตุการณ์จะล่วงเลยมานานหลายสิบปีแล้วก็ตามแต่หลายๆ ฝ่ายยังหวังว่าทางการสหรัฐจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้

เหตุการณ์ที่ 7 การลักพาตัวเบตตี้และบาร์นีย์ ฮิลลส์ (betty and Barney Hill)

นี้คือการลักพาตัวที่โด่งดังที่สุดและเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ต่างดาวลักพาตัวคนในโลก19 กันยายน 1961 ขณะที่เบตตี้และบาร์นีย์ ฮิลลส์ สองสามีภรรยาขับรถผ่านแดนทะเลทรายของรัฐนิวแฮมเชียร์ จู่ๆ ก็มีจานบินแล่นขวางหน้า และบังคับให้สองสามีภรรยาคู่นี้หยุดรถสิ่งมีชีวิตในยานนั้นมีอยู่ 5 คน(ตัว) สูง 5 ฟุต ตาโต ไม่มีจมูก และผิวหนังสีเทา เมื่อคนพวกนี้มาใกล้ สองสามีภรรยาก็รู้สึกเหมือนสะกดจิต ทั้งคู่ถูกนำตัวเข้าไปในยานและถูกตรวจสอบทางกายภาพ มนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นสอบถามสองสามีภรรยาโดยใช้พลังจิต แต่เมื่อเขาพูดกันเองก็พูดด้วยภาษาแปลกประหลาดจากนั้นสองสามีก็ถูกลบความทรงจำ และถูกปล่อยตัวออกมา ซึ่งภายหลังสองสามีภรรยาคู่นี้ถูกสะกดจิต ทั้งคู่ก็เล่าเหตุการณ์นี้อย่างละเอียด จนเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างมาก จนต้องออกโทรทัศน์รายการพิเศษในปี 1975

เหตุการณ์ที่ 8 การชำแหละวัวในท้องทุ่ง (Cattle Mutilations)

9 มิถุนายน 2005 ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดวัวตายอย่างลึกลับจำนวนมากในท้องทุ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาและบราซิลและแถบอื่นๆ ทั่วโลก โดยการตายลึกลับนี้แทบไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์จะสามารถทำได้ เพราะแต่ละพื้นที่วัวถูกฆ่าจำนวนมากโดยทั้งหมดนั้นลงมือเสร็จเพียงคืนเดียว โดย ส่วนใหญ่ท้องของวัวเคราะห์ร้ายถูกเจาะเป็นรูขนาดใหญ่รูปไข่ ด้วยเครื่องมือบางอย่างและถูกทำให้ไหม้แต่ไม่ใช้เลเซอร์หรือมีด และไม่มีเลือดไหลออกมาอวัยวะบางส่วนเช่น อวัยวะเพศ ลูกตาและเต้านมโดยเฉพาะลำไส้มักหายไป แต่ไม่มีร่องรอยการดิ้นรนเพื่อหนีความตายของวัวหรือแม้กระทั่งรอยเท้าในบริเวณที่มันตาย มีการศึกษาเพื่อไขปริศนาปรากฏการณ์นี้มีมานานแล้ว ในขณะที่มนุษย์มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่ทว่าก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไร

เหตุการณ์ที่ 9 วงกลมประหลาดบนทุ่งหญ้า (Crop Circles)

ในช่วงปี 1980 เกิดเหตุการณ์ประหลาดคือประจักษ์ต่อชาวโลก ใน 29 ประเทศ ทั่วโลก คือเกิดวงกลมประหลาด หรือสัญลักษณ์ประหลาดที่ทุ่งข้าวสาลี ข้าวบาเล่ห์ ข้าว และอื่นๆ โดยจากรายงานการเกิด Crop Circles กว่า 10,000 ครั้ง พบว่าในช่วงปลายปี 1980 นั้น Crop Circles ส่วนใหญ่รูปแบบจะออกมาในลักษณะเส้นตรงซึ่งจะออกมาคล้ายๆกับสัญลักษณ์ แต่ภายหลังจากปี 1990 รูปแบบของ Crop Circles จะซับซ้อนมาก จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์จะทำได้ นอกเสียจากจะเป็นมนุษย์ต่างดาว แล้วหาเป็นมนุษย์ต่างดาวจริง พวกเขาจะทำทำไม มันเป็นสัญญาบอกชาวโลกหรือ หรือว่าเป็นที่จอดยานบิน หรือว่าเป็นการเล่นสนุก??

เหตุการณ์ที่ 10 เทปวีดีโอผ่าตัดมนุษย์ต่างดาว










ในปี 1992 ผู้สร้างภาพยนต์เรย์ ซานติลี อ้างว่าได้ซื้อฟิล์มภาพยนต์ขนาด 16 มิลลิเมตร มีความยาวกว่า 91 นาที(ไม่เปิดเผยถึงราคาที่ซื้อมา) เป็นฟิล์มภาพยนต์ที่เกี่ยวกับการผ่าตัดซากมนุษย์ต่างดาวหลังเหตุการณ์การตกที่รอสเวลส์โดยซื้อมาจากช่างภาพของกองทัพ(ไม่เปิดเผยชื่อ)ที่ถูกมอบหมายให้ทำการถ่ายภาพยนต์การผ่าศพมนุษย์ต่างดาวที่ Fort Worth, Texas เพื่อทำการถ่ายภาพยนต์ จนกระทั่งในปี 1995 ภาพยนต์ชุดนี้ได้ถูกนำมาออกแสดง และเครือข่ายทีวีของ FOX นำภาพยนต์ชุด นี้ออกอากาศในรายการ One-hour special ผลปรากฏว่ามีคนสนใจดูมากจนต้องมีการนำมาออกอากาศซ้ำอีกถึงสี่ครั้งหลังจากนั้นทำให้มีการถ่ายถอดออกไปใน อังกฤษ , เยอรมัน , ฮอลล์แลนด์ , บราซิล และอิตาลี

UFO คือ อะไร?

UFO คือ อะไร?

คำว่า"ยูเอฟโอ"นี้มาจาก UFO=Unidentified flying Object ใช้คำย่อ UFO ในภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลตรงๆว่า "วัตถุบินที่กำหนดเอกลักษณ์ไม่ได้" สำหรับในประเทศไทย คำเรียกอื่นในภาษาไทยได้แก่ จานผี และ วบกอม ทั้งสองคำเกิดในสมัยที่ยูเอฟโอเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทย ประมาณ พ.ศ. 2530 คำว่า จานผี เป็นคำอธิบายลักษณะที่ปรากฏ ส่วนคำว่า วบกอม เป็นคำย่อ โดยนิตยสารวิทยาศาสตร์ไทยหลายเล่ม เช่น นิตยสารชัยพฤกษ์

มีการจินตนาการกันไปต่างๆนาๆ ว่า ใน UFO หรือ จานผี นั้น มีสิ่งมีชีวิตจากดาวอื่นอยู่ บ้างก็ว่าเป็นตัวสีเขียวๆ หัวโต ตาโต ตัวสูงบ้างเล็กบ้าง และมีลักษณะอื่นๆที่แตกต่างกันออกไป

มีนักวิทยาศาสตร์และผู้ค้นหว้าหลายๆคน พยายามอธิบายลักษณะต่างๆ ของ UFO หรือ จานผี และ มนุษย์ต่างดาว รวมทั้งผู้ที่อ้างว่าเคยมีประสบการณ์ได้พบกับมนุษย์ต่างดาวแบบตัวต่อตัวมาแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ใน ประเทศ "ไทย" ของเรา ยังมีบุคคลที่สำคัญมากมายได้พูดคุยเรื่องนี้กันอย่างหนาหู ....